Jan 26, 2023
ลงทุนก็แพง Training ยังไงทำไมยังรู้สึกเฟล?
เมื่อโลกเปลี่ยนและหมุนเร็วกว่าที่เราคาดคิด องค์กรที่อยากจะก้าวหน้าก็ต้องตามให้ทันกับจังหวะหมุนของโลก การพัฒนาบุคลากรจึงกลายเป็นสิ่งจำเป็นของหลายองค์กรชั้นนำของประเทศ หลายองค์กรจึงเริ่มลงทุนไปกับการพัฒนาและฝึกอบรมพนักงานให้มีทักษะที่ดีขึ้น และทันต่อกระแสการเปลี่ยนแปลงของโลกทั้งในปัจจุบันและอนาคต
.
จากข้อมูลของ The Pew Research Center พบว่า 87% ของแรงงานกลุ่มผู้ใหญ่ยอมรับว่า มีความจําเป็นหรือเห็นสำคัญว่า สําหรับพวกเขาควรจะได้รับการฝึกอบรมและพัฒนาทักษะใหม่ๆ ไปตลอดอาชีพการงาน เพื่อให้ทันกับการเปลี่ยนแปลงในที่ทํางาน และ 76% ของพนักงานเห็นด้วยว่า พวกเขามีแนวโน้มที่จะอยู่กับบริษัทที่ให้การฝึกอบรมอย่างต่อเนื่อง สะท้อนให้เห็นว่า การฝึกอบรมนั้นเป็นที่ยอมรับของพนักงานทุกระดับ
.
นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ว่า องค์กรต่างๆ ทั้งของภาครัฐและเอกชน หรือแม้แต่ตัวปัจเจกบุคคลเองต่างก็ตัดสินใจที่จะควักกระเป๋าหรือทุ่มเทงบประมาณในการลงทุนให้กับการพัฒนาและฝึกอบรม โดยเฉพาะในช่วงที่เกิดการระบาดของโควิด-19 พบว่า หลายๆ องค์กรมีการเพิ่มงบประมาณในส่วนนี้เพิ่มขึ้นเป็น 57% เลย
.
อีกด้านหนี่งที่ชี้ให้เห็นว่า เป็นเทรนด์สำคัญระดับโลกคือ ข้อมูลจาก Holon IQ ระบุว่า แนวโน้มและทิศทางการศึกษาของโลก ในปี 2023 ทั้งหน่วยงานภาครัฐ เอกชน และบุคคลทั่วไป รวมกันแล้วจะใช้เม็ดเงินในการลงไปกับการศึกษาและการฝึกอบรมทักษะสูงถึง 7 ล้านล้านดอลลาร์ต่อปี และเทคโนโลยีด้านการศึกษาจะโตขึ้นเป็นสองเท่าอย่างรวดเร็วในปีนี้เช่นกัน
.
แม้ว่าหลายองค์กรจะเห็นความสำคัญในเรื่องนี้ หรือทุ่มเทงบประมาณในส่วนนี้ไปมากก็ตาม แต่ก็พบว่า การลงทุนเม็ดเงินไปนั้นกลับไม่ได้ผล ซึ่งจากผลสำรวจของ TalentMS & SHRM พบอุปสรรคสำคัญที่ทำให้การฝึกอบรมล้มเหลว มีดังนี้
.
35% บุคคลากรยังไม่พบคอร์สที่ใช่
33% พบว่าไม่มีเวลาให้กับการอบรม
33% ยังขาดงบประมาณในส่วนนี้
32% ยังไม่พบคอร์สที่อัปเดททันต่อสถานการณ์และความเปลี่ยนแปลงของโลกเพียงพอ
28% มีเครื่องมือการฝึกอบรมไม่เพียงพอ
.
นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยอื่นๆ อีก อาทิ เนื้อหาและเวลาของการจัดการอบรมมีข้อบกพร่อง พนักงานได้เรียนรู้สิ่งที่ผิดในเวลาที่ไม่ถูกต้องทำให้เมื่อเรียนแล้วไม่สามารถจดจำในสิ่งที่เรียน หรือแม้แต่ความยากเกินไปของการจัดการเรียนการสอน การสื่อสารที่ไม่น่าสนใจของผู้สอน รูปแบบการเรียนที่ไม่ดึงดูดผู้เรียน เป็นต้น
.
ดังนั้น หนึ่งในทางออกที่สำคัญของการทำให้การฝึกอบรมประสบความสำเร็จ คือการคำนึงถึง บริบทที่เกี่ยวข้องกับตัวผู้เรียน (Learners’ Context) ไม่ได้มีเพียงเนื้อหา (Content) ที่จะสอนเพียงอย่างเดียวเท่านั้น ซึ่งบริบทของการเรียนโดยภาพรวมแล้ว ก็คือการทำความเข้าใจและคำนึงถึงความต้องการและปัญหาของผู้เรียนว่า สิ่งที่เรียนจะต้องสามารถไปช่วยพัฒนาตัวเองและองค์กรให้มีประสิทธิภาพได้อย่างไร รวมถึงระบุมายด์เซ็ต พฤติกรรม ชุดทักษะ และชุดเครื่องมือ ที่สำคัญ เพื่อช่วยให้ผู้อบรมพัฒนาตัวเองได้ พร้อมทำความเข้าใจและเชื่อมความรู้และเครื่องมือที่ได้มาเข้ากับงานหรือชีวิตของผู้เข้ารับการอบรมในแต่ละสถานการณ์ได้
.
ตลอดจนทำให้ผู้เรียนเกิดแรงจูงใจในการเข้าร่วมการฝึกอบรม ขณะเดียวกัน ต้องไม่ลืมที่จะสร้างสภาพแวดล้อมที่กระตุ้นให้ผู้เรียนได้ลองเอาสิ่งที่เรียนไปฝึกปฎิบัติและลงมือทำจริงในชีวิตส่วนตัวและการทำงาน และสุดท้าย มีการใช้คอมมูนิตี้และเทคโนโลยี เพื่อช่วยให้ผู้อบรมได้เรียนรู้ ใช้ในชีวิตได้อย่างต่อเนื่องและตลอดไป พร้อมเห็นผลลัพธ์ที่จับต้องได้ทั้งหน้าที่การงานและชีวิตส่วนตัว
.
และด้วยแนวคิดดังกล่าวนี้เอง SEAC จึงได้พัฒนากระบวนการเรียนรู้ 5 ขั้นตอน ที่จะช่วยทำให้ผู้เรียนสามารถสร้างทักษะและ mindset ที่ได้เรียนรู้ใหม่อย่างยั่งยืน พร้อมนำเอาทักษะ mindset และเครื่องมือต่างๆ ไปปรับใช้ในชีวิตได้อย่างมีประสิทธิภาพ เกิดผลสำเร็จ นำไปใช้เป็นกรอบแนวคิดในการวางเส้นทางการเรียนรู้ที่สร้างผลลัพธ์ที่คุ้มค่ากับทุกเม็ดเงินที่ลงทุนไปกับการเรียน ซึ่งกระบวนการเรียนรู้นี้เอง ที่เราเรียกมันว่า ‘5Phase Development’ มีทั้งหมด 5 ขั้นตอนการเรียนรู้ด้วยกัน
.
.
[ 1: Introduce & Enroll ]
.
ในกระบวนการแรกนี้ เกิดขึ้นจาก Pain ขององค์กรจำนวนมากที่ส่งผู้เรียนไปเรียน แต่ขาดการสื่อสารถึงความสำคัญของการฝึกอบรบและผลดีต่อตัวผู้เรียน ผู้เรียนไม่รู้ตัวล่วงหน้าว่าจะได้เรียนอะไร ทำให้เกิดคำถาม และมองไม่เห็นถึงประโยชน์ของหลักสูตรเหล่านั้นตั้งแต่ต้น ก็จะส่งผลให้ขาดแรงจูงใจต่อการเรียน ดังนั้น ในกระบวนการแรกจะมีการปูพื้นฐานให้ผู้เรียนเห็นว่า สิ่งที่เรียนจะเกี่ยวข้องและช่วยการทำงานและชีวิตเขาอย่างไร จะได้อะไรจากการเรียน เป็นการสร้างแรงกระตุ้นและความอยากเรียน
.
.
[ 2: Baseline & Measure ]
.
กระบวนการนี้มุ่งสร้างให้ผู้เรียนมองเห็นตัวเอง รู้ว่าช่องว่างระหว่างพฤติกรรม ความรู้ และความสามารถของตัวเอง ก่อนเรียนกับหลังเรียนเป็นอย่างไร มองเห็นช่องว่างในการพัฒนาของตัวเองและประโยชน์จากการเรียนที่ส่งต่อเป็นแรงกระตุ้นให้ผู้เรียนอยากเรียน และนำเอาความรู้ที่ได้ไปเพิ่มคุณค่าให้กับตัวเองมากขึ้น
.
.
[ 3: Connect & Inspire ]
.
คือ การสร้าง community ให้ผู้เรียนได้สื่อสารกัน เชื่อมโยงกัน เรียนรู้ร่วมกัน และช่วยกันเรียน ให้ผู้เรียนได้แชร์ประสบการณ์และความสำเร็จร่วมกัน ผลักดันให้อยากเรียนรู้ โดยสามารถจับกลุ่มผู้เรียนก่อนเข้าห้องเรียนจริง เพื่อสร้างแรงกระตุ้นแบบกลุ่ม
.
.
[ 4: Build & Integrate ]
.
เมื่อเข้าห้องเรียน ผู้สอนจะต้องสามารถถ่ายทอดความรู้ให้ผู้เรียนเข้าใจ และเชื่อมโยงความรู้ที่ได้ให้เข้ากับบริบทและสถานการณ์ของผู้เรียน ทำให้ผู้เรียนเห็นภาพว่า จะเอาความรู้และทักษะจากหลักสูตรไปใช้ได้อย่างไร กระตือรือร้นและมั่นใจจะเอาสิ่งที่เรียนและเครื่องมือไปใช้จริง
.
.
[ 5: Consolidate & Sustain ]
.
หลังจากที่เรียนเสร็จแล้ว ขั้นตอนนี้จะช่วยให้ผู้เรียนเห็นว่า จะนำทักษะและเครื่องมืออะไรไปใช้ในบริบทของเขาได้อย่างไรเพื่อให้เกิดผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ผู้เรียนได้ลองใช้ mindset ทักษะ และเครื่องมือใหม่ๆ และประสบความสำเร็จ พร้อมแชร์ประสบการณ์ความสำเร็จกับกลุ่มผู้เรียน เพื่อต่อยอดการเรียนรู้จากกันและกัน เพื่อเกิดการเรียนรู้และนำไปใช้อย่างต่อเนื่องอย่างยั่งยืน
.
5Phase Development หรือกระบวนการเรียนรู้ทั้ง 5 ขั้นตอนนี้ เป็นนวัตกรรมแนวคิดที่ออกแบบขึ้นจากประสบการณ์กว่า 30 ปี ในการพัฒนา จัดทำและจัดสอนหลักสูตรเพื่อพัฒนาคนให้กับองค์กรต่างๆ กว่า 1,000 องค์กร มีผู้เรียนสะสมอีกกว่า 1.5 ล้านคน รวมถึงจากข้อมูล Research และ Pain ที่เกิดขึ้นจากการฝึกอบรมที่ไม่สัมฤทธิ์ผล
.
ซึ่ง SEAC ผู้นำด้านการพัฒนาศักยภาพบุคลากรและองค์กรเพื่อส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิต ได้มีการนำเอาหลักการนี้มาใช้ในการออกแบบการเรียนการสอนให้กับลูกค้าจริงและเกิดผลที่เห็นได้จริงแบบจับต้องได้เป็นรูปธรรมกับหลายองค์กรยักษ์ใหญ่ในระดับประเทศและระดับโลก
.
อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่แค่เพียง 5Phase Development เพียงอย่างเดียวที่ SEAC ใช้เป็นกรอบแนวคิดในการจัดเส้นทางการเรียนรู้ให้ลูกค้า ยังมีเรื่องของ 4Line Learning และ 6 Learning Labs ที่ผสมผสานกันอย่างกลมกล่อมทำให้เกิดผลประโยชน์สูงสุดจากการเรียนรู้ ซึ่งจะมาเล่าให้ฟังในโอกาสต่อไป
.
และทั้งหมดนี้ น่าจะพอทำให้เห็นได้ว่าหากลงเม็ดเงินไปกับเรื่องการพัฒนาทักษะและการเรียนรู้เพื่อสร้างประสิทธิภาพการทำงาน ยืนยันว่าการลงทุนของคุณไม่สูญเปล่าอย่างแน่นอน
.
#SEAC #SEACSolution #YourNextU #ทักษะแห่งอนาคต #Leadership
#lifelonglearning #essentialskills #upskill #reskill #SelfLeadership #Training #Learner
Blogs
เรียนจบแล้วก็ลืม ไม่รู้จะหยิบไปต่อยอดยังไง? องค์กรทำอย่างไร จึงจะพัฒนาคนให้ได้ผล
🤔 เคยไหม… ไม่เข้าใจว่าฝึกอบรมเพื่ออะไร สำคัญกับตัวเราอย่างไร?
🤔 เคยไหม… โดนถูกบังคับให้ฝึกอบรม ทั้งๆ ที่ตัวเองก็ไม่อยากไป?
🤔 เคยไหม… เรียนแล้วลืม ปรับใช้ในชีวิตจริงไม่ได้
🤔 เคยไหม… เรียนยังไง ก็ไม่เข้าใจเลยสักนิด
และสุดท้าย ไม่รู้ว่าจะนำสิ่งเหล่านี้มาพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่องได้อย่างไร?
.
Cornerstone People Research Lab (CPRL) ได้ทำการสำรวจพนักงานจำนวน 1,000 คน ซึ่งเป็นผู้ให้บริการและผู้จัดการด้านทรัพยากรบุคคล เกี่ยวกับการเรียนรู้ทักษะเพิ่มเติมเพื่อการทำงาน จากการสำรวจพบว่า
64% ต้องการเรียนรู้ด้วยการจำลองเหตุการณ์
51% ต้องการให้ผู้เชี่ยวชาญมาแนะนำอย่างใกล้ชิด
50% เลือกเรียนผ่านวิดีโอออนไลน์เพื่อความสะดวก
38% ต้องการเรียนโดยใช้วิธีการดั้งเดิมอย่างการเลคเชอร์
34% ยังชอบที่จะใช้ตำราที่เป็นรูปเป็นร่างและสามารถกลับมาเปิดอ่านได้ทุกเมื่อ
19% ชอบวิธีสนุกๆ อย่างการเล่นบทบาทสมมติ
.
ดังนั้น การเรียนรู้แบบ Blended Learning หรือการเรียนรู้แบบผสมผสาน จึงมีความสำคัญอย่างมาก และต้องอาศัยผู้เชี่ยวชาญในการออกแบบคอร์สเรียนให้เหมาะสมกับผู้เรียนที่แตกต่างกัน รวมถึงออกแบบประสบการณ์การเรียนที่สามารถเกิดขึ้นได้จริง โดยใช้ผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง เพื่อทำให้ผู้เรียนได้เรียนรู้ทักษะใหม่อย่างมีประสิทธิภาพ เข้าใจอย่างถี่ถ้วน และเรียนจนจบคอร์สได้อย่างสมบูรณ์
.
จากความท้าทายที่เกิดขึ้นนี้ SEAC ได้ทำความเข้าใจและร่วมมือกับองค์กรชั้นนำในระดับสากลอย่าง Quantum Learning และ Playmeo เพื่อออกแบบ พัฒนาหลักสูตร ‘Next Gen Educators’ ซึ่งเป็นหลักสูตรที่จะช่วยยกระดับศักยภาพครูอาจารย์ให้สามารถออกแบบประสบการณ์การเรียนรู้ จัดกิจกรรมการสอนที่หลากหลาย รวมไปถึงการประเมินผลที่สอดคล้องกับผลลัพธ์การเรียนรู้ เพื่อการจัดการเรียนการสอนให้มีประสิทธิภาพสูงสุด และตอบโจทย์ผู้เรียนที่มีพฤติกรรมที่เปลี่ยนแปลงไปตามยุคสมัย
.
.
#เพราะผู้เรียนคือคนสำคัญ
.
ไม่ใ่ช่แค่สอน แต่เราออกแบบประสบการณ์เรียนรู้ ด้วยเป้าหมายของการออกแบบการเรียนรู้โมเดล 4P ได้แก่
👉 PLAN วิเคราะห์ วางแผน จากความต้องการของผู้เรียน
👉 PRIME สร้างสภาพแวดล้อม เอื้อต่อการเรียนรู้
👉 PUMP อัดฉีดความรู้ เต็มไปด้วยเนื้อหาที่เรียน และความท้าทาย
👉 PEAK ประยุกต์บทเรียน ปรับใช้ในชีวิตจริง เพื่อให้เป็นประโยชน์สูงสุดในการเรียน และได้เรียนรู้ผ่านเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริง
.
จากจุดนี้จะทำให้ผู้เรียนมีแนวทางสะท้อนการเรียนรู้ ไม่ใช่เรียนแล้วจบ หรือลืม แต่เราออกแบบประสบการณ์เรียน ซึ่งผู้เรียนจะรู้ว่า
-What: เราได้เรียนรู้อะไรไปบ้างในวันนี้
-So What: สิ่งที่ได้เรียนรู้มา สำคัญอย่างไรกับชีวิต
-Now What: สิ่งที่จะทำแตกต่างจากเดิม หรือทำเพิ่มเติมอะไรบ้าง เมื่อได้เรียนรู้จากสิ่งนี้แล้วคืออะไร
.
และนี่คือหนึ่งในจุดแข็งสำคัญของ ‘SEAC’s Trainers’ ที่ไม่ใช่แค่การสอนเนื้อหา แต่เป็นการออกแบบประสบการณ์เรียนให้น่าเรียน และคิดถึงผู้เรียนเป็นหลัก
👉 เทรนเนอร์ของ SEAC ได้รับการบ่มเพาะอย่างใส่ใจ ทั้ง Mindset, Skillsets, และ Toolsets
👉 กระบวนการโค้ช การสอนแต่ละวิชา ตามมาตรฐานของ Global & World-class Partners
👉 ผู้สอนผ่านการฝึกฝนอย่างครอบคลุม ทั้ง Content skills ในเรื่องเนื้อหาที่สอน Platform skills การสื่อสารและสร้างความสัมพันธ์กับผู้เรียน รวมถึง Facilitation skills ที่ช่วยย่อยความรู้ให้เข้าใจง่าย และเกิดองค์ความรู้ในห้องเรียน
👉 ผู้สอนไม่ใช่แค่ดีไซน์การเรียนรู้จบแค่ในห้องเรียน แต่ต้องให้ผู้เรียนนำองค์ความรู้ ไปสร้างจุดเปลี่ยน และเกิดผลลัพธ์จริงหลังออกจากห้องเรียน
.
แล้วคุณล่ะ พร้อมจะให้ผู้สอนของ SEAC มาช่วยพัฒนาคนในองค์กรของคุณแล้วหรือยัง?
.
ด้วยประสบการณ์กว่า 30 ปีของ SEAC ในการพัฒนาบุคลากรและองค์กรในไทย ทำให้ SEAC เป็นเเห่งเดียวที่ได้รับความไว้วางใจจากพันธมิตร ที่หลากหลายสาขาวิชาในการถ่ายทอดหลักสูตรพัฒนาบุคลากรที่ทรงประสิทธิภาพให้แก่องค์กรต่างๆ ในประเทศไทย เราพร้อมที่จะออกแบบประสบการณ์เรียนรู้ เพราะ Trainers ที่ดี ต้องเข้าใจ Learner
.
ถ้าหากท่านสนใจ สามารถติดต่อ SEAC หรือขอรับรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นี่
👉🏼 https://bit.ly/3eb9AQW
.
#SEAC #SEACSolution #YourNextU #ทักษะแห่งอนาคต #Leadership
#lifelonglearning #essentialskills #upskill #reskill #SelfLeadership
#Trainers #Learner
Jan 26, 2023
โดนัทยังมีรู แล้วเมื่อไร You จะ ‘ไว้ใจ’ สร้างองค์กรอย่างไรให้เกิดความไว้วางใจ
โดนัทยังมีรู แล้วเมื่อไร You จะ ‘ไว้ใจ’
สร้างองค์กรอย่างไรให้เกิดความไว้วางใจ
.
บริษัทจะยั่งยืนได้ ไม่ได้เกิดจากการถูกประเมินค่าจากมูลค่าของบริษัท หรือความสำเร็จเพียงอย่างเดียว แต่บริษัทจะยั่งยืนได้ ต้องเกิดจากคนในองค์กร ‘มีความเชื่อใจ และไว้วางใจซึ่งกันและกัน’
.
จากงานวิจัยของ Ken Blanchard Company ระบุว่า 82% ของผู้คนกล่าวว่า พวกเขาไม่รู้สึกปลอดภัยและไว้วางใจที่จะพูดความจริงกับหัวหน้าของตน และ 45% ของพนักงานกล่าวว่า การที่พวกเขาไม่ไว้วางใจในตัวหัวหน้าเป็นปัญหาที่ใหญ่ที่สุด ที่ส่งผลต่อประสิทธิภาพการทำงานของพวกเขา
.
เมื่อไรก็ตามที่คนในองค์กรไม่ไว้วางใจซึ่งกันและกัน สิ่งที่จะเกิดขึ้น ก็คือผู้คนจะปกปิดข้อมูล พูดคุยกันลับหลัง พนักงานไม่กล้าที่จะพูดความจริง ปัดความรับผิดชอบต่อปัญหาที่เผชิญ และท้ายที่สุด ขวัญกำลังใจของทีมก็ไม่ดี ผลผลิตลดลง การลาออกเพิ่มขึ้น และเกิดสภาพแวดล้อมที่ไม่น่าทำงาน
.
แล้วถ้าในองค์กรมีความไว้วางใจซึ่งกันและกันจะเป็นอย่างไร? Ken Blanchard Company ให้ข้อมูลว่า องค์กรที่มีความไว้วางใจ (Trust) สูง บุคลากรในองค์กรจะกล้าลองทำอะไรแตกต่างมากขึ้นถึง 32 เท่า สร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ๆ มากขึ้น 11 เท่า และมีผลงานเพิ่มขึ้น 6 เท่า
.
แล้วเราจะสร้างความไว้วางใจให้เกิดขึ้นในองค์กรได้อย่างไร? มีอยู่ 4 องค์ประกอบด้วยกัน เรียกว่า ‘ABCD Trust Model’ ที่จะช่วยสร้างความไว้วางใจ (Trust) ให้เกิดขึ้นในองค์กรได้ ดังนี้
.
.
#Ability (ความสามารถ)
.
หากผู้นำในองค์กรไม่แสดงว่าตนมีความสามารถ พนักงานก็จะมีความเชื่อถือในตัวคนผู้นั้นน้อยลง การแสดงความสามารถของพวกเขาจะสร้างแรงบันดาลใจให้ผู้อื่น และเพิ่มความไว้วางใจมากขึ้นได้
.
.
#Believability (ความน่าเชื่อถือ)
.
ด้วยคุณธรรมและความซื่อสัตย์ ผู้นำจะต้องแสดงให้เห็นว่า พวกเขามีความซื่อสัตย์ ไม่ทำร้ายความไว้วางใจที่พนักงานมีให้ ประพฤติตนตามมาตรฐานและค่านิยมขององค์กร ปฏิบัติตามนโยบายของบริษัทในลักษณะที่น่าเชื่อถือและปฏิบัติตาม
.
.
#Connectedness (ความสัมพันธ์)
.
ผู้นำจะต้องแสดงให้เห็นว่า พวกเขามีส่วนร่วมและสร้างความสัมพันธ์กับผู้อื่น เป็นผู้ฟังที่ดี และมีทักษะในการสื่อสาร สามารถสร้างบรรยากาศในการทำงานที่น่ารื่นรมย์ ทัศนคติที่เอาใจใส่ของผู้นำแบบนี้จะช่วยสร้าง Teamwork ที่ดีได้
.
.
#Dependability (สามารถพึ่งพาได้)
.
การแสดงให้เห็นว่า ผู้อื่นสามารถพึ่งพาผู้นำได้จะนำไปสู่สภาพแวดล้อมเชิงบวกในองค์กร ผู้นำจะต้องยึดมั่นในข้อตกลงและปฏิบัติตามที่ได้ตกลงกันไว้ พนักงานจะเชื่อใจผู้นำมากขึ้นหากผู้นำปฏิบัติตามสัญญาภายในระยะเวลาที่ตกลงกันไว้
.
.
การนำ ABCD Trust Model ไปใช้ในการสร้างผู้นำที่ดี จะช่วยให้ผู้นำสามารถสร้างความสัมพันธ์ที่ดีและยั่งยืนกับพนักงาน รวมไปถึงการพัฒนาต่อยอดผู้นำคนใหม่ ยิ่งมีผู้นำในองค์กรนำ ABCD Trust Model ไปใช้มากเท่าไร พนักงานก็จะยิ่งมีความไว้วางใจ (Trust) ต่อพวกเขามากขึ้นเท่านั้น
.
ด้วยประสบการณ์กว่า 30 ปีของ SEAC ในการพัฒนาบุคลากรและองค์กรในไทย ทำให้ SEAC เป็นเเห่งเดียวที่ได้รับความไว้วางใจจาก The Ken Blanchard ในการถ่ายทอดหลักสูตรพัฒนาภาวะผู้นำที่ทรงประสิทธิภาพอย่าง SLII® และ Self Leadership เเละ Building Trust ให้แก่องค์กรต่างๆ ในประเทศไทย
.
หากท่านสนใจ การพัฒนาบุคลากร ต้องการสร้าง Trust ให้เกิดขึ้นในองค์กรสามารถติดต่อ SEAC หรือขอรับรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นี่: https://bit.ly/3eb9AQW
Sources:
http://bit.ly/3iOZvLG
https://bit.ly/3D241gH
http://bit.ly/3QXwLgn
.
#SEAC #SEACSolution #Trust #YourNextU #ทักษะแห่งอนาคต #Leadership
#lifelonglearning #essentialskills #upskill #reskill #SelfLeadership
#BuildingTrust #SLII #ABCDTrustModel
Jan 26, 2023
All
Agility & Change
Business Acumen
Communication & Collaboration
Digital Skills
Mindset & Personal Growth
Success Story